“ว่ากันว่า Albarracín ได้รับการขนานนามให้เป็น หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของสเปน ซึ่งเมื่อได้มาเห็นด้วยตาตั วเองแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่า ของเค้าดีสมคำร่ำลือจริงๆ!”
อัลบาร์ราซินเป็นหมู่บ้านเล ็กๆ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด Teruel (เตรูเอล) แคว้น Aragón (อารากอน) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ตัวเมืองอัลบาร์ราซินได้รับ การขึ้นทะเบียนเป็น National Monument ของประเทศสเปนตั้งแต่ปี 1961 และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเส นอชื่อเพื่อขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกของยูเนสโก การเดินทางมาอัลบาร์ราซินใน ทริปนี้ เรา (ติ๊ดตี่กับเพื่อนสาวผู้ร่วมทริป) เริ่มออกสตาร์ทจากมาดริด โดยนั่งรถบัสของบริษัท Samar มาลงที่เตรูเอล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.ครึ่ง (8.30 - 13.00 น.) จากนั้น ต้องนั่งรถบัส (ซึ่งช่วงที่ไป) มีแค่รอบเดียวต่อวันเท่านั้ นที่ออกจากเตรูเอล (14.40 น.)
Tourist Information (ที่แรก)ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักของเมือง
Tourist Information (จุดที่สอง) จุดนี้อยู่ในตัวเมืองเลย และเป็นจุด meeting point ของเรากับไกด์
เรามาถึงที่อัลบาร์ราซินเวลาปร ะมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ ซึ่งก็ถือว่าประจวบเหมาะ เพราะเราจองทัวร์เมือง+โบสถ ์ประจำเมืองแบบมีไกด์รอบเวล าสี่โมงเย็นไว้ การจองทัวร์นี้ถือว่าไม่ได้ เป็นไฟต์บังคับ แต่ไปกับทัวร์นี้ นอกจากจะมีไกด์คอยอธิบายประ วัติความเป็นมาของเมืองและส ถานที่สำคัญๆแล้ว ยังจะได้เข้าชมส่วนที่ไม่ได ้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าได้ อีกด้วย (เช่นตัวปราสาท) ทัวร์แบบ official ที่ว่า คือทัวร์ของ Fundación Santa María de Albarracín ซึ่งควรจองล่วงหน้าซักนิด สนนราคาก็ไม่แพงเลย 2.5 ยูโรสำหรับ City Tour+Catedral และ 3 ยูโรสำหรับทัวร์ปราสาท (Castillo)
“ชื่อเมือง Albarracín นั้นมาจากชื่อชนเผ่ามุสลิมกลุ่มหนึ่งชื่อ Ibn-Racin ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานหลังจา กการเข้ามารุกรานคาบสมุทรไอ บีเรียของมุสลิมราชวงศ์อุมั ยยะห์ (Califato Omeya) อัลบาร์ราซินเคยมีสถานะเป็น Taifa มีกษัตริย์ปกครองตนเองนานกว ่า 94 ปี จึงถูกควบรวมเข้ากับอาณาจัก รบาเลนเซีย (Reino de Valencia)”
ความว้าวววแรกที่มาถึงอัลบา
กุญแจประตูโบถส์ เค้าใช้ไซส์นี้ไขกันจริงๆนะ เก๋มากกก
จากนั้นคุณไกด์ก็พาไปชมเมือ ง ลัดเลาะไปตามซอกซอยที่ทั้งค ดเคี้ยว เป็นเนินขึ้นลง ซึ่งนับว่าเป็นเสน่ห์อย่างน ึงของเมืองนี้เลยทีเดียว บ้านเรือนที่นี่มีเอกลักษณ์ คือผนังจะทำจากปูนปลาสเตอร์ สีแดง (yeso rojo) ที่พบได้มากในแถบหุบเขาบริเ วณนี้ บ้านไหนไฮโซมีชาติตระกูลหน่ อย ตรงบานประตูจะมีที่เคาะประต ูทำเป็นรูปจิ้งเหลน เท่าที่เดินผ่านก็เห็นอยู่ส ามสี่บ้าน ดีไซน์จิ้งเหลนไม่ซ้ำกันซัก บ้าน เก๋ไปอีกแบบ
บ้านที่ถูกใจติ๊ดตี่ที่สุด คือ Casa de la Julianeta เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ตรงทางแ
Casa de la Julianeta
จากนั้น เรามีนัดไปทัวร์ตัวปราสาทตอ
เสร็จจากทัวร์ปราสาท เป้าหมายของเราคือการเดินขึ
“ขณะที่นั่งอยู่ริมผาบนจุดชมวิว ก็คิดว่า เมืองแบบนี้มัน ไม่เหมือนที่อื่นในยุโรปนะ มันมีแต่ในสเปนจริงๆอ่ะ ”
เรานั่งสูดอากาศ (หนาว) จนชุ่มปอด (และตัวเย็นยะเยือก) ดูพระจันทร์(เกือบ)เต็มดวงท
โดยสรุปแล้ว อัลบาร์ราซินเป็นเมืองที่สว
BUDGET: สำหรับการเดินทางโดยรถบัส ต้องตั้งต้นจากเมืองเตรูเอลก่อน โดยรถขามาอัลบาร์ราซินมีรอบบ่ายรอบเดียวเท่านั้น ส่วนขากลับมีตอน 8.55 ของวันรุ่งขึ้น เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องค้างที่เมืองหนึ่งคืน ค่าโดยสารประมาณ 3.80 ยูโรต่อเที่ยว เป็นของบริษัท Navarro / ส่วนค่าที่พักที่ Meson del Gallo ที่เราไปพักกันนั้น ตกคืนละ 35 ยูโรต่อห้อง เป็นห้องแบบเตียง Double ห้องน่ารักมาก และสภาพใหม่พอสมควร มีครัวซึ่งสามารถใช้อุ่นอาหารได้ ในกรณีที่พกอาหารมาเอง โดยจ่ายค่าใช้ครัวเพิ่มคนละ 1 ยูโรค่ะ
MUST SEE: วิวเมืองแบบพาโนรามาจาก Ermita de la Virgen del Carmen
No comments:
Post a Comment