Monday, February 10, 2014

ลัดเลาะรอบรั้วสเปน: Consuegra (กอนซวยกร้า) ดินแดนแห่งกังหันลมของดอนกิโฆเต้


เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาติ๊ดตี่ได้ไปเยือนเมืองเล็กๆ ชื่อ Consuegra (กอนซวยกร้า) มาค่ะ

ต้องบอกว่าแรงบันดาลใจในการไปเมืองนี้ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อมีพี่รู้จักสองคนไปเที่ยวเมืองนี้เมื่อสองปีก่อน และถ่ายรูปเนินเขาที่มีกังหันลมเรียงรายอยู่ตามแนวสันเขามาอย่างสวยงามตรึงตาตรึงใจมาก เห็นรูปครั้งแรกแล้วว้าวววว ว่ามันมีที่แบบนี้ในสเปนด้วยหรอ แถมทิวทัศน์ยังไปอิงกะวรรณกรรมเรื่อง Don Quijote ที่ติ๊ดตี่เคยถูกบังคับอ่านบังคับจำมาตั้งแต่สมัยเรียนอีกด้วย (ฮ่าาา) เลยร่ำๆว่าอยากจะไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ไปซักทีจนมีเหตุต้องกลับไทยไป พอมีโอกาสได้กลับมาสเปนอีกทีคราวนี้ มีคุณน้องที่รักคนนึงบอกว่าอยากจะไปๆ ประจวบกับเพื่อนสาวมาบอกว่ามันมีงานเทศกาลดอก azafrán ด้วยนะตัวเทอ (มันคืออะไรเดี๋ยวจะอธิบายต่อไปค่ะ) เลยถือว่าได้ฤกษ์ยามอันเหมาะเหม็งเหมาะเหม็งที่จะได้ไปซักที!


เมืองกอนซวยกร้าเป็นเมืองเล็กๆในจังหวัดโตเลโด้ อยู่ในเขตแคว้น Castilla-La Mancha (กาสติย่า ลา มันช่า) ในบริเวณนี้มีการปลูก rosa de azafrán หรือ หญ้าฝรั่น กันมาก หญ้าฝรั่นที่เราเห็นเป็นสีเหลืองอมส้มคือส่วนเกสรของดอกไม้ที่มีกลีบสีม่วงๆ ขายกันกิโลนึงประมาณ 3,000 ยูโร (คุณพระ!) สีเหลืองๆของ Paella (ปาเอย่า) หรือข้าวผัดสเปนก็มาจากสีของหญ้าฝรั่นนี่แหละค่ะ ใส่นิดเดียว ให้สีเหลืองสดมาก


เมืองกอนซวยร้าเป็นสถานที่จัดงานเทศกลาดอกหญ้าฝรั่นประจำปี เค้าจัดกันเป็นอีเว้นท์ระดับชาติ ชื่อว่า Festival Nacional de Folklore "Rosa del Azafrán" มีการจัดแข่งขันเอาเกสรออกจากดอก rosa de azafrán (ตามรูปข้างบน) ซึ่งเกสรที่ว่านี้ ก็คือส่วนของหญ้าฝรั่นที่เอามาใช้ปรุงอาหารนี่แหละค่ะ มีการเดินแบบชุดประจำแคว้นต่างๆ มีการร้องเพลงพื้นบ้าน มีการเต้นรำ Jota (โฆต้า) ซึ่งก็คือ การเต้นแบบสเปน ที่มี castañuelas (กัสตานย้วยลาส) หรือกรับสเปนเป็นส่วนประกอบในการให้จังหวะ (จะอยู่ในมือนักเต้น) 







มาคราวนี้นับว่าคุ้มมาก เพราะมาตรงกับเทศกาลพอดี ได้เห็นคนสเปนแต่งชุดประจำแคว้นสวยๆดูแปลกตา ชุดดูใกล้ๆนี่อลังการมาก งานปัก งานเย็บ ฝีมือเริ่ด สีสันสดใส จนอยากจะซื้อมาใส่ซักชุดนึง แต่ละแคว้นก็จะมีสไตล์ และสีสันการแต่งตัวที่ต่างกันออกไป







ดูงานเสร็จก็ได้เวลาท้องร้อง กินข้าวเที่ยง เราแวะไปกินที่ร้าน El Alfar (เอล อัลฟาร์) เป็นร้านอาหารพื้นบ้านของที่นี่ค่ะ มาร้านนี้ตามคำแนะนำในใบปลิวแนะนำการท่องเที่ยวของเมือง เข้ามาถึงเจอบรรยากาศบ้านๆ อบอุ่นๆ แบบนี้ชอบมากเลยค่ะ



Arroz caldoso con setas al azafrán เป็นอาหารจานแรกใน Menú del día (เมนู เดล เดีย - เมนูอาหารกลางวันประจำวัน) ของร้าน El Alfar มีเฉพาะเทศกาลนี้ เป็นข้าวผัดคล้ายๆริซอตโต้ แฉะๆแต่เม็ดข้าวไม่เหลว สุกกำลังดี ใส่เห็ด ผัก พริกหวาน รสชาติกลมกล่อมออกเค็มนิดๆ เหมือนซดซุปไก่ใส่เห็ดหอม สีเหลืองที่เห็นคือสีที่ได้จาก azafrán หรือหญ้าฝรั่น นางเอกของเทศกาลนี้ค่ะ 


จานที่สองเป็น Costillas de cerdo marinadas en salsa de azafrán หรือซี่โครงหมูย่างในซอสหญ้าฝรั่น


ส่วนจานนี้เรียกว่า Migas ค่ะ จานนี้เป็น Migas สูตรของจังหวัดโตเลโด้ ทำจากขอบขนมปังเหลือๆ ผัดคลุกเคล้ากับกระเทียม เครื่องปรุง ไส้กรอกสเปนหรือโชริโซ่ โปะด้วยไข่ดาว จานนี้ครั้งเดียวเกินพอค่ะ เลี่ยนมาก แห้งมาก ฝืดคอมาก ไม่ปลื้มเท่าไหร่ค่ะ (ฮ่าาา)


Flor manchega sobre crema de azafrán caliente เป็นขนมของแคว้นนี้โดยเฉพาะ เหมือนขนมไทยเรา คือ ขนมดอกจอก ครีมสีเหลืองอ่อนๆรสหวานเหมือนกิน natillas หรือพุดดิ้งเหลวๆ ครีมที่ว่านี้มีส่วนผสมของหญ้าฝรั่นค่ะ


จากตัวเมือง เราเดินออกมามุ่งสู่เนินเข้าที่มีกังหันลมค่ะ พื้นที่บริเวณนี้เป็นเนินเขาโล่งๆเตี้ยๆแห้งๆ ตามสไตล์ของแคว้น Castilla-La Mancha ค่ะ แคว้นนี้เป็นแคว้นใหญ่อยู่กลางๆประเทศค่อนไปทางใต้ ติดกับทางใต้ของมาดริด แคว้นนี้ประกอบด้วยจังหวัด 5 จังหวัด คือ Albacete, Ciudad Real, Cuenca, Guadalajara และ Toledo คำว่า Mancha ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า รอยเปื้อน จุดด่างดำ หรือรอยสิวในภาษาสเปนนะคะ แต่มีที่มาจากคำในภาษาอาหรับ คำว่า Manxa หรือ Al-Mansha ซึ่งมีความหมายว่า "tierra sin agua" (แผ่นดินที่ไม่มีน้ำ), หรืออาจจะมาจากคำว่า Manya ที่แปลว่า "alta planicie" (ที่ราบสูง) หรือ "lugar elevado" พื้นที่ยกสูง ซึ่งพื้นที่ในแถบแว่นแคว้นนี้ก็เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ






กังหันลม หรือในภาษาสเปนใช้คำว่า molino de viento (โมลิโน่ เด เบียนโต้) เป็นองค์ประกอบในฉากสำคัญของวรรณกรรมเรื่อง El ingenioso hidalgo don Quijote de la Mancha หรือเรียกสั้นๆว่า Don Quijote แปลเป็นไทยไว้อย่างเพราะพริ้งโดยผู้แปลว่า "ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน" ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของสเปน และเป็นที่รู้จักกันดีมากๆในระดับสากล เพราะเป็นวรรณกรรมที่มีความเป็น universal คือ ไม่ว่าชาติไหนภาษาไหนก็สามารถเข้าใจสารที่ผู้แต่งต้องการสื่อ เพราะที่มีความเป็นสากลอยู่สูง แม้เรื่องราวจะดำเนินอยู่ในแคว้น La-Mancha ของสเปนก็ตาม มีคนตีความเรื่องราว สัญลักษณ์ต่างๆในเรื่องนี้ไว้มากมาย เรื่องนี้ผู้แต่งคือ Cervantes (เซร์บันเตส) เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1605 โน่นเลยค่ะ





ตามท้องเรื่อง เมื่อดอน กิโฆเต้ควบม้ามาถึงดินแดนแถบนี้ ก็ไปเจอกับกังหันลม ด้วยความฟั่นเฟือนพ่อดอนแกเลยคิดเป็นตุเป็นตะว่ากังหันลมคือยักษ์ จึงเข้าไปโรมรันต่อสู้ให้ชุลมุนวุ่นวาย สุดท้ายก็แพ้ยับเยินค่ะ ฉากนี้นับว่าเป็น "ฉากจำ" ของวรรณกรรมเรื่องนี้เลยค่ะ





กังหันลมแต่ละตัวจะมีชื่อตามตัวละครในวรรณกรรมเรื่องนี้ค่ะ มีตัวเดียวที่ยังเปิดใช้งานได้อยู่ คือ ตัวที่มีชื่อว่า Sancho ซึ่งเป็นชื่อของตัวละครคนรับใช้คู่กายของดอน กิโฆเต้ค่ะ กังหันลมของจริงสวยค่ะ รู้สึกว่า ไม่เคยเห็นวิวทิวทัศน์แบบนี้ที่ไหนมาก่อน บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในยุโรปยุคอัศวิน บ้านช่องที่นี่ก็ดูเล็กๆเก่าๆ มีตรอกซอกซอยแคบๆ ให้บรรยากาศเหมือนบ้านนอกฝรั่งมากๆ น่ารักไปอีกแบบดีค่ะ




สำหรับการเดินทางมาเมืองนี้ สามารถนั่งรถบัสมาจากมาดริดมาได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ก็ถึง หรือจะนั่งรถมาจากโตเลโด้ก็ได้ค่ะ เมืองนี้ไม่มีรถไฟมานะคะ ใครใคร่อยากจะค้างคืนก็ได้ค่ะ ในตัวเมืองมีโรงแรมอยู่ แต่จขบ.แนะนำว่า ไปเช้าเย็นกลับก็พอค่ะ เพราะเดินเที่ยวในเมืองประมาณครึ่งวันก็เสร็จค่ะ



ส่วนรูปที่เอามาลงนี้มีทั้งถ่ายโดยกล้องตัวเอง (Sony NEX-5R) และกล้องเพื่อน (Nikon) ค่ะ
Hope you like it! :D

3 comments:

  1. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  2. รสบัสจะไปส่งลงตรงสถานีรสบัสที่อยู่ติดกับ tourist info เลยค่ะ ลงปุ๊ปเจอเลย เข้าไปขอแผนที่กับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ จากตรงนั้น ก็เดินไม่ไกลนะคะ แต่็ไม่ได้ใกล้มาก เดินตัดเข้าเมืองตามแผนที่ แล้วจะมีทางเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆค่ะ

    ReplyDelete
  3. ออ ค่ะ ขอบคุณค่ะ เหมือนว่า ตารางรถจากมาดริด จะจำกัดมากๆ

    ReplyDelete