Thursday, February 13, 2014

ลัดเลาะรอบรั้วสเปน: เยือนเมืองแห่งทะเลเหนือ San Sebastián (ตอนที่ 1)


เมืองที่ติ๊ดตี่จะพาไปรู้จักวันนี้ เป็นเมืองที่ติ๊ดตี่ชอบมากที่สุดตั้งแต่เคยไปเที่ยวเมืองต่างๆของสเปนมาเลยค่ะ ติ๊ดตี่มีความทรงจำที่ดีมากๆกับเมืองนี้ รู้สึกประทับใจทั้งเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว วิวทิวทัศน์ บรรยากาศ อาหารการกิน ผู้คน สภาพอากาศ ประจวบเหมาะกับช่วงที่ไป เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดี อากาศเลยสดใสมากๆ แดดดี ลมเย็น ไม่หนาว ไม่ร้อนจนเกินไป ถ้าจะพูดอวยกันซะขนาดนี้ เลื่อนลงมาอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าเมืองนี้เค้ามีอะไรดีบ้าง 


ถ้าดูตามแผนที่ประเทศสเปน ซานเซบสเตียนจะตั้งอยู่ตรงจุดแดงๆค่ะ (รูปซ้าย) ส่วนรูปด้านขวา คือ ตัวเมืองค่ะมีลักษณะเป็นอ่าวเว้าเข้ามา อ่าวนี้มีชื่อว่า Bahía de la Concha (บาอี๊อา เด ลา กอนช่า) ตรงส่วนปลายอ่าวทั้งสองด้านเป็นภูเขาสูง เป็นจุดชมวิวของเมืองทั้งสองที่เลยค่ะ ซึ่งตอนไปเที่ยวก็ได้ไปขึ้นมาครบค่ะ ขอบอกสวยจริงๆ


ตอนที่แพลนทริปนี้ เรา - ติ๊ดตี่และคณะเพื่อนสาวอีกสองคน - ตั้งใจจะทำทริปเก็บเมืองทางตอนเหนือของสเปนในระยะเวลา 4-5 วันช่วงหยุดเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งตัวเลือกอันดับหนึ่งของพวกเราก็คือ แคว้น País Vasco (ปาอิส บาสโก้) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ แคว้นบาสก์ นั่นแหละค่ะ แคว้นนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสเปน ติดกับทะเลกันตาบริโก้ (Mar Cantábrico) ใกล้ฝรั่งเศสมากๆ แคว้นนี้ใครอาจจะพอคุ้นๆว่า แต่ก่อนเค้ามีกลุ่มก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนชื่อ ETA ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐบาลสเปนมานานมาก จนเค้ามาสงบศึกกันได้เมือไม่กี่ปีมานี้ คือ ที่เค้าอยากแยกตัวออกไปจากสเปน ก็ด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และภาษาที่แตกต่างกัน แคว้นนี้เค้ามีภาษาของเค้านะคะ เรียกว่า Euskera (เออุสเกร่า) ซึ่งค่อนข้างต่างจากภาษาสเปน (Castllano - กัสเตย่าโน่) อย่างมาก เรียกได้ว่า ต่างกันคนละเรื่องเลย! เพราะมาจากรากภาษาที่แตกต่างกัน ส่วนคอบอลคงจะคุ้นกับชื่อทีม Athletic Bilbao ทีมฟุตบอลชื่อดังอีกทีมของสเปน 


พูดถึงเมืองแถบนี้ สิ่งที่โดดเด่นมากๆ ในความคิดของจขบ.คือ ธรรมชาติที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ อาหารที่อร่อยฝุดๆ (พวก Pintxos [ปินโชส], อาหารทะเล, Sidra หรือไวน์แอปเปิ้ล) ความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จัดได้ว่า เป็นแคว้นที่น่าอยู่มากๆเลยทีเดียว สรุปคือ ทริปนี้ "สาว สาว สาว" อันประกอบด้วยตัวเองและเพื่อนๆ ก็เลยแพลนกันว่าจะไปเที่ยว Bilbao, San Sebastián, Zaragoza กันค่ะ แต่วันนี้จะขอมารีวิวเฉพาะเมืองซานเซบาสเตียน หรือ Donostia (โดโนสเตีย) ชื่อตามภาษา Euskera ก่อนค่ะ



เราไปถึงซานเซบาสเตียนตอนเย็นพอดี ไปถึงก็รีบเข้าที่พัก ซึ่งเราจอง hostel ใจกลางย่านเมืองเก่า (Casco Antiguo) ของซานเซบาสเตียนไว้ และเนื่องจากช่วงที่ไป ตรงกับช่วงเทศกาลอีสเตอร์พอดี คนเลยเยอะมาก แถมย่านนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์เบียร์ แหล่งช๊อปปิ้งของที่ระลึก คนเลยเดินกันให้ขวักไขว่ ยั้วเยี้ย แก้วเบียร์เยอะพรืด ทำเอาติ๊ดตี่สะพรึงไปชั่วขณะ (ฮา) แต่ก็ครึกครื้นไปอีกแบบดีค่ะ โอเค เก็บกระเป๋าเสร็จก็ออกไปเดินรับลมทะเลกันหน่อย ชายหาดหลักของที่นี่ ชื่อว่า หาดลากอนช่า (La Concha) ตัวหาดนี่ยาวเกือบกิโลครึ่ง ทอดยาวจากหน้าศาลาว่าการเมือง (Ayuntamiento) ไปถึง Palacio de Miramar ตรงนั้นก็จะมีชาวเมือง (หน้าตาดีกว่า 90%!) มาเดินเล่น จูงน้องหมา มาเป็นคู่ พักผ่อนหย่อนใจยามเย็น นอนเอนก นั่งรับลมบริเวณท่าเรือ โรแมนติกมากกก นี่พูดเลย!



เช้าวันรุ่งขึ้น เราเดินดูรอบๆย่านที่พัก ซึ่งเป็นเขตเมืองเก่า เช้าๆอย่างงี้นับว่าร้างผู้คนมาก คนยังไม่ตื่นจากปาร์ตี้เมื่อคืนกัน (ฮาาา) เสร็จแล้วเราก็มายังจุดที่เป็นศาลาว่าการเมือง (Ayuntamiento) และชายหาดที่เรามาเมื่อวาน ตอนเช้าคนยังไม่ตื่นเท่าไหร่ เห็นแดดออกอย่างงี้ แอบหนาวนะคะ เพราะลมเย็นมาก แต่ก็ยังมีสาวสเปนใส่บิกินี่สู้ลมหนาวเดินเล่นชายหาดให้เห็นอยู่คนสองคน ต้องบอกว่า จขบ.รู้สึกว้าวมาก กับบรรยากาศชายหาดตอนเช้าของที่นี่ สวยมากจริงๆ จขบ.และเพื่อนสาวเลยบิดซ้ายบิดขวาเล็งมุมแชะภาพกันอยู่เกือบร้อยแอ๊ค! (ฮา)

ศาลาว่าการเมือง 



 ตึกสีแดงอิฐที่อยู่ริมชายหาดคือวังมิรามาร์ (Palacio de Miramar)




หลังจากถ่ายรูปเสร็จ เราก็เดินขึ้นเขา Monte Urgull ที่อยู่ข้างๆหาดกัน จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ยอดเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ระยะทางรู้สึกจะเป็นกิโลอ่ะค่ะ น่าจะสองกิโลกว่าๆ เป็นทางเดินลาดชันขึ้นไป ซึ่งเค้าทำไว้ดีมากทีเดียว ไม่ใช่ทางดินลูกรังแบบบ้านเรา แล้วทางเดินมันจะเลียบเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้สามารถชมวิวเมืองซานเซบาสเตียนจากมุมสูงได้ตลอดทาง 



ตึกสีแดงอิฐนี้ คือ Palacio de Miramar ค่ะ ภาพนี้ถ่ายจากทางขึ้น ซูมไปเต็มแม็กของกล้องเลยค่ะ จริงๆมันตั้งอยู่ไกลจากจุดที่ยืนมาก ถ้าดูจากแผนที่ ก็อยู่อีกฝั่งของอ่าวเลยล่ะค่ะ


จะเห็นว่าหาดถูกแบ่งเป็นสองช่วงตรงแหลมที่ยื่นออกมาจาก Palacio de Miramar ด้านซ้ายคือ Playa de la Concha หรือหาดกอนช่าค่ะ ส่วนด้านขวาคือ Playa de Ondarreta หรือหาดออนดาร์เรต้าค่ะ




เราเดินกันขึ้นมาเรื่อยๆค่ะ ไม่รีบร้อน หยุดถ่ายรูปกันตลอดทางเลย เหนื่อยก็พัก เพราะเค้ามีเก้าอี้ไว้ให้นั่ง มีสวนหย่อมเล็กๆ เขียวชอุ่มมาก คือ คนที่นี่เค้าก็จะมาเดิน-วิ่งออกกำลังกาย พาน้องหมามาเดินเล่น เดินชมวิวอะไรไป ชิลสุดๆเลยค่ะ


ภาพข้างล่างนี้ถ่ายบริเวณเกือบจะถึงยอดของภูเขาแล้วค่ะ มุมนี้เป็นมุมที่ติ๊ดตี่รู้สึกว่ามันสวยมากๆ คือ สามารถมองเห็นตัวเมืองซานเซบาสเตียนได้ทั้งหมด เกือบ 360 องศา ภูเขาสูงๆที่อยู่ด้านหลังเกาะคือ Monte Igueldo หรือเขาอิเกลโด้ค่ะ ตรงยอดเขามีจุดชมวิวเหมือนกันค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปขึ้นตอนเย็นค่ะ 


ขึ้นมาถึงบริเวณยอดเขา จะเป็นปราสาท-ป้อมปราการสมัยก่อนค่ะ ชื่อว่า Castillo de la Mota หรือปราสาทโมต้า พอดีติ๊ดตี่มีแต่รูปที่ถ่ายติดตัวเอง เลยขอไม่เอามาลงละกันนะคะ เดี๋ยววิวเค้าจะเสียหมด Foot in mouth ตัวปราสาทเหลือแต่ซากแล้วค่ะ คือ มีลักษณะเป็นป้อมสร้างด้วยหินด้วยอิฐ ตรงบริเวณนั้นมีรูปปั้นพระเยชูสูงประมาณ 12 เมตรตั้งอยู่ด้วย


วิวจากบริเวณป้อมปราการ


หลังจากนั้นก็ได้เวลาลงค่ะ เพราะเราใช้เวลาเดินเรื่อยเปื่อยกันนานกว่าที่คาดไว้ เพราะมัวแต่ดื่มด่ำกับวิวกับรัวถ่ายรูปไม่ยั้ง (ฮา) ขาลงเราเดินลงอีกทางค่ะ เพราะเค้าตัดเส้นทางวนลงอีกทางให้ โดยไม่ต้องเดินย้อนกลับมาทางเดิมที่ขึ้นมา คือเดินวนได้รอบเขาเลยค่ะ 



ลงมาถึงข้างล่างก็เจอสถาปัตยกรรมหน้าตาแปลกๆอันนี้ล่ะค่ะ


ลงมาถึงข้างล่างปุ๊ป ท้องก็ร้องปั๊ป! ก็ใช้พลังงานเดินไต่เขากันอยู่ครึ่งวันนี่คะ เราเลยเดินเข้าไปใจกลางย่านเมืองเก่าอีกครั้ง เลือกร้านกันอยู่ซักพักเราก็ดิ่งเข้าร้านนี้ เพราะหน้าตาดูดี อาหารดูน่ากิน แต่ติ๊ดตี่จำชือร้านไม่ได้จริงๆค่ะ ต้องขออภัย Foot in mouth อาหารร้านนี้เป็นอาหารท้องถิ่นแนวฟิวชั่นหน่อยๆ คือ เป็นอาหารรสชาติสเปน แต่หน้าตาจะจัดแต่งมาสวยงามกว่าปกติ จะไม่ได้เป็นแบบ homemade พื้นบ้านขนาดนั้น ซึ่งถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าร้านนี้จะได้รางวัลร้านที่มีคุณภาพมาตรฐานสำหรับนักท่องเที่ยวของซานเซบาสเตียนด้วย


ใครมาถึงถิ่นแคว้นบาส์ก ห้ามพลาดลิ้มรส Sidra (ซิดร้า) หรือไวน์แอปเปิ้ล สินค้าโอท็อปของแคว้นนี้เชียวค่ะ รสชาติจะเบากว่าไวน์องุ่น ไม่ขม ไม่เฝื่อนมาก ผู้หญิงกินได้สบายๆ ถ้าเป็นร้านที่เค้าขายซิดร้าโดยเฉพาะ (เรียกว่า Sidrería - ซิเดรเรีย) เค้าจะมีวิธีการรินซิดร้าโดยเฉพาะเลยค่ะ คือ คนรินจะถือแก้วทำมุมประมาณ 45 องศา แล้วมืออีกข้างยกขวดซิดร้าขึ้นสูงๆ แล้วเทซิดร้าให้ลงแก้ว จะทำให้มีฟองเล็กน้อย ซ่าหน่อยๆ ถ้านึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงท่าทางคนทำชาชักของไทยก็ได้ค่ะ ท่าทางจะประมาณนั้นแหละค่ะ Embarassed 


ส่วนอันนี้เป็นออเดิร์ฟค่ะ เป็นไข่ขาวตีกับตับบดหรืออะไรบดซักอย่างนึงอ่ะค่ะ จำไม่ได้จริงๆ แต่ที่จำได้แม่นคือ รสชาติมันแหยะมากกก ฮ่าๆๆๆ คือ มันเหมือนกินไข่ขาวดิบตีเป็นฟองกับตับบดแบบไม่สุกอ่ะค่ะ Frown แต่มันเป็นอาหารของเค้านะคะ คือก็เห็นคนสเปนเค้าก็กินกันอร่อย แต่เราชาวไทยขอบายค่ะ




จานนี้ ซุปปลาค่ะ อร่อยมากกกก คือ เหมือนเค้าเอาปลา เอาเครื่องทุกอย่างมาต้ม เคี่ยว หรืออาจจะปั่นหยาบๆ จนทุกอย่างเปื่อยเป็นฝอยๆ รสชาติจะออกเค็มๆหน่อย texture ซุปเข้มข้น กินอุ่นๆ โล่งคอมากค่ะ 


 จานนี้เป็นปลาย่างราสซอสค่ะ (จำชื่อเมนูนี้ไม่ได้อีกแล้ว Foot in mouth)


เมนูนี้คือ Chipirones en su tinta หรือปลาหมึกในซอสหมึกค่ะ รสชาติหมึกๆมาก ฮ่าๆๆๆ คือ มันออกเค็ม เลี่ยนนิดหน่อย จริงๆถ้ากินคู่กับข้าวสวยอาจจะเข้ากันได้นะคะ แต่ถ้ากินปล่าวๆนี่ เลี่ยนมาก แต่ยังไงถ้าใครมาถึงที่นี่ อยากให้ลองชิมดูค่ะ รสชาติมันแปลกลิ้นจริงๆ



สองจานนี้ (บน-ล่าง) เป็นปลาย่างราดซอสเหมือนกันค่ะ จำชื่อเมนูไม่ได้อีกแล้ว Foot in mouth แต่จำได้ว่าเนื้อปลาสดมาก


มาถึงของหวานเป็นไอศครีมช็อคโกแลต อร่อยใช้ได้เลยค่ะ


ส่วนเมนูนี้ มีชื่อว่า Crema catalana ค่ะ จริงๆเป็นของหวานประจำแคว้นกาตาลันไม่ใช่ของแคว้นบาส์ก แต่เค้ามีเสริฟ์ เราก็กินค่ะ (ฮา) ลักษณะมันจะคล้ายๆคัสตาร์ต แต่เค้าจะเอาน้ำตาลโรยตรงผิวคัสตาร์ต แล้วเอาไฟพ่นให้มันเกรียมๆนิดหน่อยค่ะ ทานคู่กับถั่วมันๆ รสชาติหวานๆตัดกับถั่วฝาดๆ ก็อร่อยดีค่ะ


หลังจากอิ่มท้องกันไปแล้ว เราชาวคณะก็แพลนกันว่า จะเดินเลียบชายหาดกอนช่า (Playa de la Concha) ไปจนถึง Palacio de Miramar หรือวังชมทะเล (อันนี้แปลเองค่ะ ฮา) แล้วขึ้นเขาอิเกลโด้ (Monte Igueldo) เพื่อชมวิวจากยอดเขาค่ะ ซึ่งวิวจากยอดเขานี้เป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆค่ะ แต่ติ๊ดตี่ขอยกไปรีวิวในตอนหน้านะคะ เพราะยังมีรายละเอียดอีกเยอะเลยค่ะ นอกจากโปรแกรมของวันนี้ (ที่เหลือ) ก็จะมีของวันสุดท้ายที่อยู่ซานเซบาสเตียนด้วยค่ะ ยังไงรอติดตามกันในตอนที่ 2 นะคะ Cool


No comments:

Post a Comment